คู่มือนำเที่ยวของ Like

Bunsong
คู่มือนำเที่ยวของ Like

ออกกำลังกาย

สวนบนเกาะกลางแม่น้ำที่มีทางเดินและทางปั่นจักรยาน รวมถึงอุปกรณ์ออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น
Ko Lamphu
สวนบนเกาะกลางแม่น้ำที่มีทางเดินและทางปั่นจักรยาน รวมถึงอุปกรณ์ออกกำลังกาย และสนามเด็กเล่น

เที่ยว

ความที่เมืองสุราษฎร์ธานีได้ชื่อว่าเป็น “เมืองธรรมะ” เราจึงไม่พลาดที่จะไปเยือน “สวนโมกขพลาราม” หรือชื่อทางการเรียกว่า “วัดธารน􀄽้ำไหล” วัดนี้ก่อตั้งโดย ท่านพทุ ธทาสภกิ ขุ ตงั้ อย่ทู เี่ ขาพทุ ธทอง อำ􀄽 เภอไชยา จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี เป็นสถานที่ ปฏิบัติธรรมและสถานที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก แม้ท่าน พระพุทธทาสภิกขุจะมรณภาพไปนานถึง 21 ปีแล้ว แต่ชื่อเสียงของวัดนี้ ก็ยังดึงดูดให้พุทธศาสนิกชนมาเยี่ยมเยียนไม่ขาดสาย พอเดินเข้าไปข้างในวัด ก็พบว่าภายในวัดบรรยากาศร่มรื่น ประดบั ประดาด้วยงานปั้นเลยี นแบบอนิ เดยี พร้อมป้ายคำ􀄽 สอนด้วย ลายมือท่านพุทธทาสภิกขุที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในวัด หลายคน ไม่พลาดที่จะแชะรูปเก้าอี้ “ศานติ-ไมตรี” ซึ่งเป็นเก้าอี้ที่ท่าน พุทธทาสใช้รับแขกเมื่อครั้งอดีต ใครที่มาเยือนวัดแห่งนี้ อย่าลืม แวะไปสกั การะห่นุ ขผี้ งึ้ ของท่านพทุ ธทาสทกี่ ฏุ อิ าจารยิ บชู า เพอื่ ความเป็น สิริมงคล นอกจากนั้นภายในวัดยังมีลานหินโค้ง ส􀄽ำหรับฟังธรรม ที่ปัจจุบันนี้ยังมีการฟังธรรมเหมือนสมัยที่ท่านพุทธทาสยังมีชีวิตอยู่ นอกจากจะได้เห็นข้อความธรรมะเรียบง่ายแต่สะกิดใจคนที่สามารถพบเห็น ได้ทั่วไปรอบวัดแล้ว เราจะยังได้เห็นหุ่นจ􀄽ำลองอวโลกิเตศวร ศิลปะแบบศรีวิชัยที่ว่า กันว่างดงามที่สุด สร้างมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12 อายุกว่าพันปี (องค์จริงตั้งอยู่ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ) นอกจากนั้นยังมี “โรงมหรสพทางวิญญาณ” ที่เป็นการ สอนธรรมะด้วยภาพ ภายในตึกมีภาพวาดต่างๆ ที่แฝงด้วยคติธรรมลึกซึ้ง หลายภาพ เป็นผลงานของศิลปินต่างชาติที่บรรจงวาดภาพไว้อย่างสวยงาม เช่น อ.เชอร์แมน ชาวอเมริกัน เชื้อสายยิว, บางภาพเป็นภาพที่คัดลอกมาโดยศิลปินชาวไทย เช่น อ.สุเทพ เมืองคล้าย, อ.พนม ศิริสุวรรณ เรียกว่ามาแล้วได้ยลทั้งธรรมะและศิลปะ กลับบ้านไปแบบอิ่มใจเต็มๆ
Wat Suan Mok Phalaram
ความที่เมืองสุราษฎร์ธานีได้ชื่อว่าเป็น “เมืองธรรมะ” เราจึงไม่พลาดที่จะไปเยือน “สวนโมกขพลาราม” หรือชื่อทางการเรียกว่า “วัดธารน􀄽้ำไหล” วัดนี้ก่อตั้งโดย ท่านพทุ ธทาสภกิ ขุ ตงั้ อย่ทู เี่ ขาพทุ ธทอง อำ􀄽 เภอไชยา จงั หวดั สรุ าษฎร์ธานี เป็นสถานที่ ปฏิบัติธรรมและสถานที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก แม้ท่าน พระพุทธทาสภิกขุจะมรณภาพไปนานถึง 21 ปีแล้ว แต่ชื่อเสียงของวัดนี้ ก็ยังดึงดูดให้พุทธศาสนิกชนมาเยี่ยมเยียนไม่ขาดสาย พอเดินเข้าไปข้างในวัด ก็พบว่าภายในวัดบรรยากาศร่มรื่น ประดบั ประดาด้วยงานปั้นเลยี นแบบอนิ เดยี พร้อมป้ายคำ􀄽 สอนด้วย ลายมือท่านพุทธทาสภิกขุที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในวัด หลายคน ไม่พลาดที่จะแชะรูปเก้าอี้ “ศานติ-ไมตรี” ซึ่งเป็นเก้าอี้ที่ท่าน พุทธทาสใช้รับแขกเมื่อครั้งอดีต ใครที่มาเยือนวัดแห่งนี้ อย่าลืม แวะไปสกั การะห่นุ ขผี้ งึ้ ของท่านพทุ ธทาสทกี่ ฏุ อิ าจารยิ บชู า เพอื่ ความเป็น สิริมงคล นอกจากนั้นภายในวัดยังมีลานหินโค้ง ส􀄽ำหรับฟังธรรม ที่ปัจจุบันนี้ยังมีการฟังธรรมเหมือนสมัยที่ท่านพุทธทาสยังมีชีวิตอยู่ นอกจากจะได้เห็นข้อความธรรมะเรียบง่ายแต่สะกิดใจคนที่สามารถพบเห็น ได้ทั่วไปรอบวัดแล้ว เราจะยังได้เห็นหุ่นจ􀄽ำลองอวโลกิเตศวร ศิลปะแบบศรีวิชัยที่ว่า กันว่างดงามที่สุด สร้างมาตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 12 อายุกว่าพันปี (องค์จริงตั้งอยู่ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ) นอกจากนั้นยังมี “โรงมหรสพทางวิญญาณ” ที่เป็นการ สอนธรรมะด้วยภาพ ภายในตึกมีภาพวาดต่างๆ ที่แฝงด้วยคติธรรมลึกซึ้ง หลายภาพ เป็นผลงานของศิลปินต่างชาติที่บรรจงวาดภาพไว้อย่างสวยงาม เช่น อ.เชอร์แมน ชาวอเมริกัน เชื้อสายยิว, บางภาพเป็นภาพที่คัดลอกมาโดยศิลปินชาวไทย เช่น อ.สุเทพ เมืองคล้าย, อ.พนม ศิริสุวรรณ เรียกว่ามาแล้วได้ยลทั้งธรรมะและศิลปะ กลับบ้านไปแบบอิ่มใจเต็มๆ
หลายคนเวลามาเที่ยวสุราษฎร์ธานี มักจะมองผ่านการเที่ยวใน “ตัวเมือง” ทั้งๆ ที่สุราษฎร์ธานี มีงานประเพณีและสถานที่ให้ไปเยือนไม่น้อย “งานประเพณีชักพระ” ที่น่าสนใจ ประเพณีเกิดจากที่นี่มีคลองร้อยสาย พอชาวบ้านเว้นว่างจากการทำงานจึงมีการจัดให้แข่งเรือและประเพณีชักพระออกจากวัดมาที่แม่น้ำเพื่อให้ชาวบ้านได้ไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคล ใครที่สนใจ สามารถมาเยี่ยมชมงานประเพณชักพระ พุ่มผ้าป่า แข่งเรือยาว ได้ในช่วง ตุลาคม นี้ มาแล้วจะได้เห็นประเพณี “การจัดพุ่มผ้าป่าหน้าบ้าน” หรือประเพณี ซึ่งจะจัดในคืนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 มีฉพาะในอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีเท่านั้นเป็นการตั้งพุ่ม ผ้าป่าหน้าบ้านกว่า 1,000 พุ่ม ณ บรเิ วณถนนหน้าเมือง โดยพุ่มผ้าป่านี้ประชาชนจะตกแต่งให้มีต้นไม้หรือกิ่งไม้ไว้ แล้วจะมีผ้าเหลือง 1 ผืนห้อยไว้ รวมถึงมีสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับ พระภิกษุนำมาผูกไว้ที่กิ่งไม้ด้วย เช่น ปิ่นโต ธูป เทียน ยาสีฟัน ไม้ขีด ฯลฯ จากนั้นในเวลารุ่งเช้าของวันแรม 1 ค่ำ ประมาณ 05.30 น. พระภิกษุจำนวนเท่ากับพุ่มผ้าป่าจากวัดต่างๆ จะจาริกไปยังพุ่มผ้าป่าตามสลากที่ได้รับ เมื่อถึงเวลา 06.00-06.30 น. ก็จะทำพิธีชักผ้าโดยเจ้าของพุ่มและประชาชนที่ร่วมทำบุญกับผ้าป่าจะนั่งลง พนมมือตรงไปยังพุ่มผ้าป่าด้านหน้าตน เมื่อพระภิกษุชักผ้าเสร็จแล้วก็เป็นอันเสร็จพิธี หลังจากนั้นพระภิกษุจะจาริกกลับวัด ถือเป็นประเพณีที่ถือปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่ในสมัยอดีตจนเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี นอกจากนั้นยังมี “การชักพระทางบก” หรือลากพระในวันออกพรรษา งานนี้พระสงฆ์จะชักพุ่มผ้าป่าพร้อมกันทั่วเมือง มีการแห่พระทางบก ประกวดรถ-เรือพนมพระจากกว่า 100 วัด อีกหนึ่งไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด คือการชมการแข่งขันเรือยาว ที่คาดว่าจะสร้างความสนุกสนานครื้นเครงให้แก่ผู้มาเยือนไม่น้อย โดยจะมีพิธีเปิดแข่งขันเรือยาว ณ ริมเขื่อนแม่น้ำตาปี
Surat Thani
หลายคนเวลามาเที่ยวสุราษฎร์ธานี มักจะมองผ่านการเที่ยวใน “ตัวเมือง” ทั้งๆ ที่สุราษฎร์ธานี มีงานประเพณีและสถานที่ให้ไปเยือนไม่น้อย “งานประเพณีชักพระ” ที่น่าสนใจ ประเพณีเกิดจากที่นี่มีคลองร้อยสาย พอชาวบ้านเว้นว่างจากการทำงานจึงมีการจัดให้แข่งเรือและประเพณีชักพระออกจากวัดมาที่แม่น้ำเพื่อให้ชาวบ้านได้ไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคล ใครที่สนใจ สามารถมาเยี่ยมชมงานประเพณชักพระ พุ่มผ้าป่า แข่งเรือยาว ได้ในช่วง ตุลาคม นี้ มาแล้วจะได้เห็นประเพณี “การจัดพุ่มผ้าป่าหน้าบ้าน” หรือประเพณี ซึ่งจะจัดในคืนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 มีฉพาะในอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีเท่านั้นเป็นการตั้งพุ่ม ผ้าป่าหน้าบ้านกว่า 1,000 พุ่ม ณ บรเิ วณถนนหน้าเมือง โดยพุ่มผ้าป่านี้ประชาชนจะตกแต่งให้มีต้นไม้หรือกิ่งไม้ไว้ แล้วจะมีผ้าเหลือง 1 ผืนห้อยไว้ รวมถึงมีสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับ พระภิกษุนำมาผูกไว้ที่กิ่งไม้ด้วย เช่น ปิ่นโต ธูป เทียน ยาสีฟัน ไม้ขีด ฯลฯ จากนั้นในเวลารุ่งเช้าของวันแรม 1 ค่ำ ประมาณ 05.30 น. พระภิกษุจำนวนเท่ากับพุ่มผ้าป่าจากวัดต่างๆ จะจาริกไปยังพุ่มผ้าป่าตามสลากที่ได้รับ เมื่อถึงเวลา 06.00-06.30 น. ก็จะทำพิธีชักผ้าโดยเจ้าของพุ่มและประชาชนที่ร่วมทำบุญกับผ้าป่าจะนั่งลง พนมมือตรงไปยังพุ่มผ้าป่าด้านหน้าตน เมื่อพระภิกษุชักผ้าเสร็จแล้วก็เป็นอันเสร็จพิธี หลังจากนั้นพระภิกษุจะจาริกกลับวัด ถือเป็นประเพณีที่ถือปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่ในสมัยอดีตจนเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี นอกจากนั้นยังมี “การชักพระทางบก” หรือลากพระในวันออกพรรษา งานนี้พระสงฆ์จะชักพุ่มผ้าป่าพร้อมกันทั่วเมือง มีการแห่พระทางบก ประกวดรถ-เรือพนมพระจากกว่า 100 วัด อีกหนึ่งไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด คือการชมการแข่งขันเรือยาว ที่คาดว่าจะสร้างความสนุกสนานครื้นเครงให้แก่ผู้มาเยือนไม่น้อย โดยจะมีพิธีเปิดแข่งขันเรือยาว ณ ริมเขื่อนแม่น้ำตาปี